วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การจัดดอกไม้ทรงพัด

การจัดดอกไม้ทรงพัด

รูปพัด (FAN-SHAPE)


ดอกไม้ที่จัดเป็นรูปพัดนั้นก็คือทรงครึ่งวงกลมนั่นเอง ดอกไม้ที่ใช้ได้ดีในการจัดทรงนี้คือดอกไม้ลักษณะเป็นเส้นแนวเช่น แกลดิโอลัส ลิ้นมังกร ลิอาทรีส สต๊อค กล้วยไม้ช่อ เป็นต้น โดยใช้จัดเป็นรัศมีพุ่งจากจุดศูนย์กลางดังลักษณะโครงสร้างของพัด และใช้ดอกไม้อื่นที่มักจะเป็นดอกไม้กลม ๆ เช่น คาร์เนชั่น หรือกุหลาบ ฯลฯ เติมด้านในระหว่างช่องไฟของดอกที่เป็นเส้นแนว การจัดทรงรูปพัดเป็นลักษณะการจัดที่สองด้านเท่ากัน ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นพิธีการ

ดอกกล้วยไม้และใบในภาพคือเส้นแนวที่เป็นหลักของรูปทรงในการจัดดอกบัว เติมช่องไฟระหว่างเส้นแนวของดอกกล้วยไม้ทำให้พื้นที่ว่างสมบูรณ์ขึ้น รูปทรงนี้นิยมใช้ในงานพิธีต่าง ๆ เช่น การตกแต่งโบสถ์ งานแต่งงาน และงานศพ


1. ตัดฟลอร่าโฟมบรรจุลงภาชนะ


2. ปักกล้วยไม้ให้ได้แนวครึ่งวงกลมตรงกลาง ด้านข้าง 2 ด้าน ปักใบสับหว่างกล้วยไม้


3. ลงดอกและใบจนได้รูปทรงของครึ่งวงกลมหรือทรงพัด


4. ผลงานที่เสร็จเรียบร้อย

การจัดดอกไม้ทรงแนวนอน


การจัดดอกไม้ทรงแนวนอน (HORIZONTAL FORM)


ทรงแนวนอนเป็นรูปทรงของการจัดดอกไม้ที่ดูสงบ ขรึม กฎเกณฑ์ของการจัดทรงนี้ก็คือส่วนที่ยาวออกไปนั้นควรจะยาวกว่าส่วนเด่นของศูนย์กลางหรือ Focal Area หนึ่งเท่าครึ่งถึงสองเท่า ในรูปทรงที่แท้จริงของการจัดทรงนี้ทั้งสองด้านที่นับจากเส้นศูนย์กลางต้องเท่ากัน การจัดดอกไม้ทรงแนวนอนเหมาะในการจัดเป็นเซ็นเตอร์พีซบนโต๊ะอาหารหรือบนโต๊ะประชุม เพราะแนวเส้นด้านนอนของดีไซน์ไม่เกะกะสายตาเมื่อวางอยู่ระหว่างผู้นั่งอยู่ทั้งสองด้าน ในภาพเน้นการจัดทรงแนวนอนโดยใช้ดอกไม้สีอ่อน ดอกไม้ที่ใช้จัดเป็นดอกบัวที่นำมาจัดผสมกับดอกกล้วยไม้ส่วนที่ทอดยาวออกไปทั้งสองด้านจัดวางดูเป็นธรรมชาติ และเห็นได้ว่าดูมีน้ำหนักสมดุลเท่ากันทั้งสองด้าน


1. บรรจุก้อนฟลอร่าโฟมลงภาชนะ


2. ปักใบความยาว 1 เท่าครึ่งของภาชนะออกด้านข้าง 2 ด้านและปักใบจนเต็มปิดปากภาชนะและก้อนฟลอร่าโฟม


3. ปักดอกบัวและดอกกล้วยไม้ลงตามรูปทรงที่ต้องการ

การจัดดอกกุหลาบ

ดอกไม้ที่นิยมนำมาจัดดอกไม้

11



ดอกกุหลาบ ( Roses )

ดอกกุหลาบ มีหลายพันธุ์ และหลายเฉดสี เช่น แดง ชมพู โอโรส ครีม ม่วงอ่อน เหลือง หรือออกส้มหาได้ง่ายและถ้ามีการสั่งจองไว้ก็จะได้ดอกไม้ที่มีคุณภาพและโทนสีตามต้องการ ถ้าจะให้ กุหลาบ อยู่ทนก็ควรเลือก กุหลาบ ที่มีกลีบหนาหน่อย ก้านใหญ่ เพราะจะเหี่ยว หรือคอตกได้ยากกว่า กุหลาบ ที่ก้านเล็กๆ

ดอกคอลล่า ลิลลี่ ( Calla Lily )

จริงๆแล้วก็ไม่เชิงว่าจะเป็น ดอกไม้ ในตระกูลเดียวกับ ดอก ลิลลี่ นะคะ ดอกไม้ ชนิดนี้มีหลายสีทั้ง สีขาว ครีม ส้ม ม่วง และเหลือง ในต่างประเทศนิยมใช้คอลล่า ลิลลี่ ในการจัด ช่อเจ้าสาว อาจจะเป็นคอลล่า ลิลลี่ อย่างเดียว หรือจัดรวมกับ ดอกไม้ ชนิดอื่นก็ได้ เช่น กุหลาบ

ดอกเยอบีร่า เดซี่ ( Gerbera Daisies )

น่าจะเห็นกันได้ทั่วไป มีหลายเฉดสีมากๆ ที่นำมาให้ดูกันเป็นโทนพาสเทล ( Pastal ) ทั้ง ส้ม เหลือง ชมพู แต่ก็จะมีโทนสีเข้มด้วยเช่นกัน บางครั้งก็อาจจะเห็นเป็น ส้ม สด หรือชมพูเข้มกลีบดอกค่อนข้างหนาทำให้เราสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานนิยมในการจัดแจ กันหรือซุ้มดอกไม้ใช้แซมไปกับช่อดอกไม้ขอเจ้าสาวแต่ถ้าใช้ทิวลิปอย่างเดียวก็มีโอกาสที่ ช่อเจ้าสาวจะสวยอยู่ได้ไม่นาน มีหลายสีเช่นกันทั้ง ขาว ชมพู ส้ม แดง ม่วงและอีกมากเพราะมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้ได้โทนสีแปลกๆอยู่ตลอดเวลา

ดอกกล้วยไม้ ( Orchid ) เดี๋ยวนี้กล้วยไม้ไม่ได้มีแต่สีม่วงขาวหรือชมพูอย่างเมื่อก่อนแล้วนะคะอาจจะเห็นสายพันธุ์ ที่สีสดๆกันมากขึ้นทั้งสีม่วงสดส้มเขียวเหลืองซึ่งราคาก็สูงกว่ากล้วยไม้ธรรมดาๆที่เราใช้ไหว้ พระกันส่วนมากนิยมใช้กล้วยไม้ธรรมดาหรือกล้วยไม้หวายสีขาวและสีม่วงชมพูในการตกแต่ง อาจจะร้อยเป็นสายโยงไปมาหรือปักเป็นพื้นของซุ้มดอกไม้หน้างานหรือนำมาแซมจัดช่อดอกไม้ หรือตระกูลแคทลียาที่มีหลายโทนสีหลายขนาดที่สามารถนำมาประดับตกแต่งผมเจ้าสาวได้อีก

ดอกทิวลิป ( Tulip )

รู้จักกันเป็นอย่างดีแน่นอนแต่ว่าเราจะไม่ค่อยเห็นทิวลิปในการตกแต่งสถานที่เพราะกลีบ ดอกค่อนข้างบางโดนลมไม่นานก็จะเหี่ยวหรือดูไม่สดใสซะแล้วแต่ถ้าเจ้าสาวท่านไหนชอบ ทิวลิปเราก็แนะนำให้นำมาใช้เป็นดอกไม้ประดับผมเจ้าสาวก็ได้คล้ายๆกับดอกคาร์เนชั่น เล็กๆ หรือ ดอกฟรีเซีย

ดอกลิลลี่( Lily )

ดอกไม้ชนิดนี้ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าดอกกุหลาบไม่ว่าจะเป็นงานไหนๆก็จะเห็นลิลลี่อยู่ ในทุกๆการประดับตกแต่งสถานที่หรือช่อดอกไม้ใหญ่ๆลิลลี่มีหลายสีและหลายพันธุ์เช่นเดียวกับ กุหลาบ ทั้ง สีขาว ชมพู ส้ม แล้วก็ เหลือง แต่ที่ใช้กับมากก็เห็นจะเป็น สีขาว และ สีชมพู

ดอกลิเซียนตัส ( Lisianthus )

ดอกไม้นอกที่นิยมนำมาจัดช่อดอกไม้หรือนำมาจัดแจกันอีกชนิดหนึ่งหลายๆคนน่าจะเคยเห็น ที่ร้านดอกไม้แต่ก็ยังไม่เป็นที่ใช้กันมากเท่ากันดอกไม้ทั้ง6ชนิดที่กล่าวไปแล้วเห็นผ่านตาบ่อยๆ ก็เลยมาแนะนำให้รู้จักชื่อใหม่ๆกันซักชื่อดอกที่ยังตูมอยู่อาจจะ

การจัดดอกเปิดตัวคู่บ่าวสาว

การจัดดอกไม้ตกแต่งทางเดินเปิดตัวคู่บ่าวสาว

30



พิธีแต่งงานถือเป็นพิธีร่วมสาบานของชายและหญิง ในการตกลงปลงใจว่าจะร่วมเดินเคียงบ่าเคียงไหล่บนเส้นทางสายเดียวกัน และสำหรับการเตรียมงานแต่งงานนอกเหนือจากการ์ดเชิญ ของชำร่วย ชุดแต่งงานแล้ว การตกแต่งสถานที่จัดงานก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น กระปุกเวดดิ้งจึงขอนำเสนอสิ่งที่ทุกคนต้องมีในงานแต่งงาน นั่นก็คือ ทางเดินเปิดตัวคู่บ่าวสาว ส่วนจะประกอบด้วยอะไรบ้างนั้น เราไปดูกันเลยจ้า

การจัดทางเดินเปิดตัวคู่บ่าวสาวจะต้องจัดเป็นแนวเรียงกันจากใกล้ไปไกล ซึ่งส่วนประกอบก็ไม่ยุ่งยากและซับซ้อนมาก โดยการตกแต่งทางเดินมีหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าเป็นทางเดินทรงสูง, ทางเดินกรงนก, ทางเดินแจกัน และทางเดินผ้าขาว หรือจะมีการประยุกต์สิ่งของอื่นมาใช้ตกแต่งงานด้วยก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งมีส่วนประกอบ ดังนี้

อันดับแรกส่วนเริ่มทางเดิน บริเวณนี้เป็นที่เริ่มเดินบนพรม รวมทั้งเป็นด่านแรกที่แขกทุกคนต้องเห็นเมื่อเดินเข้ามาในงาน จึงต้องเริ่มจัดแจกันเป็นเสาต้นแรก ซึ่งเสาต้นนี้อาจจะมีการจัดขนาดใหญ่กว่าช่ออื่น ๆ เพื่อที่จะได้ดูสวยงาม ตั้งแต่เริ่มเดินเข้ามาในงาน ส่วนดอกไม้ที่นำมาจัดก็เป็นโทนสีดอกไม้ที่อ้างอิงจากฉากแต่งงาน ให้เป็นโทนสีที่เท่ากันหรืออ่อนกว่า เพื่อจะได้ไม่ไปแย่งซีนฉากแต่งงานที่เป็นไฮไลท์ของงานมากเกินไป อีกทั้งดอกไม้ที่นิยมใช้ในการจัดซุ้มแจกันทางเดิน คือ ดอกกุหลาบ, กล้วยไม้, เบญจมาศ และอาจจะมีการประดับเพิ่มด้วยใบไม้ใหญ่หรือริบบิ้นสีหวาน

ส่วนที่สองเป็นส่วนของทางเดิน ซึ่งทางเดินในที่นี้ขึ้นอยู่กับบ่าวสาวว่าต้องการปูพรมหรือไม่ และต้องคำนึงถึงสีของธีมงานที่ใช้ว่าจะเป็นโทนสีไหน เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วจะปูด้วยพรมสีแดง หรือต้องการโปรยดอกไม้เป็นทางเดิน หรือจะให้เด็กที่เดินนำทางเจ้าสาวมา ค่อย ๆ โปรยทีละนิดตอนเดินเข้ามาก็สามารถทำได้เช่นกัน และโดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ดอกไม้ ราคาไม่แพง เน้นปริมาณมากหน่อย เช่น ดอกเบญจมาศ, ดอกดาวเรือง, ดอกบัว เป็นต้น

ขณะที่ริมทางเดินจะเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับทางเดินเปิดตัวเจ้าบ่าวสาว เพราะในส่วนนี้จะมีการจัดแจกันดอกไม้เป็นเสา ๆ โดยจะจัดใส่ในแจกันหรือห่อโอเอซิสเป็นก้อนกลม แล้วจัดวางบนเสายาวไปจนถึงด้านฉากแต่งงาน ในระหว่างเสาอาจจะใช้ผ้า ดอกไม้ร้อยเป็นเส้นยาว หรือริบบิ้นมาผูกหย่อน ๆ ก็ดูสวยงามเช่นกัน เรียงเป็นแนวยาวลึกเข้าไป โดยความยาวของทางเดินนั้น คู่บ่าวสาวจะต้องเป็นคนกำหนดเอง เพราะบริเวณริมทางเดินก็จะเรียงเก้าอี้ของแขกที่มาร่วมงาน หรือ เป็นการจัดโต๊ะจีนเรียง แต่เว้นช่องว่างตรงกลางให้ใหญ่ เพื่อทำไว้จัดทางเดินเปิดตัวบ่าวสาว ทั้งนี้ ความยาวของทางเดินนั้นอาจจะอยู่ที่ว่าเชิญแขกมาร่วมงานมากน้อยเท่าไหร่ ซึ่งการจัดดอกไม้ในโซนนี้จะใช้แจกันดอกไม้ช่อแรกตอนเริ่มทางเดินเป็นต้นแบบ

ส่วนสุดท้าย คือ ส่วนสิ้นสุดทางเดิน ซึ่งจะสิ้นสุดบริเวณด้านหน้า ก็คือ ฉากแต่งงาน ที่ใช้สำหรับพิธีแต่งงานในลำดับอื่น ๆ ต่อไป บริเวณนี้อาจจัดเป็นดอกไม้สีโทนอ่อน เพื่อจะส่งให้ส่วนให้ฉากแต่งงานดูโดดเด่นขึ้น

การจัดดอกไม้แบบตัวเอส

การจัดดอกไม้ แบบตัวเอส (Hogarth Curve)

12



การจัดดอกไม้ ถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องอาศัยทักษะ ประสบการณ์ เพราะจะต้องใช้ดอกไม้ที่แตกต่างกันในหลากหลายสี การไล่โทน การนำเอาดอกไม้หรือใบไม้ ตลอดจนวัสดุต่าง ๆ มาจัดให้อยู่ในองค์ประกอบทางศิลปะ ซึ่งต้องมีความสัมพันธ์กัน และทำให้เกิดมุมมองที่สวยงามนับได้ว่าเป็นศิลปะและวิวัฒนาการที่สืบทอดกันมาช้านานการจัดดอกไม้โดยส่วนใหญ่นิยมจัดเลียนแบบดอก

   หลักการจัดดอกไม้

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. ภาชนะสำหรับจัด หมายถึง ภาชนะสำหรับรองรับดอกไม้มีหลายชนิด เช่น แจกันรูปทรงต่าง ๆ เช่น กระบุง ตะกร้า ชะลอม

2. ที่สำหรับรองภาชนะ เมื่อจัดดอกไม้เสร็จควรมีสิ่งรองรับเพื่อความสวยงาม ความโดดเด่นของแจกัน เช่นไม้ไผ่ขัดหรือสานเป็นแพ กระจก แป้นไม้

3. กรรไกรสำหรับตัดแต่ง

4. เครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น ลวด ทราย ดินน้ำมัน กระดาษสี ฟลอร่าเทปสีเขียว ก้านมะพร้าว ลวดเบอร์ 24 และ เบอร์ 30

5. ดอกไม้ประดิษฐ์พร้อมใบไม้สำเร็จ

6. เครื่องประกอบตกแต่ง เช่น กิ่งไม้ ขอนไม้ ตุ๊กตา ขดลวด เป็นต้น

การจัดดอกไม้แบบตัวเอส (Hogarth Curve)

การจัดทรงตัวเอส นิยมจัดในภาชนะทรงสูง เป็นรูปทรงที่เกิดจากการนำเส้นโค้งสองเส้นมาประกอบเข้าด้วยกันเป็นรูปตัวเอส การจัดทรงนี้เป็นแบบอ่อนหวาน ดังนั้นดอกไม้ที่นำมาจัดก็สำคัญเพราะถ้าไม่เข้ากันแล้วจะดูไม่อ่อนหวานทันที เริ่มเลยน่ะค่ะ

1) นำโอเอซิสบรรจุลงแจกันทรงสูง

2)ปักใบสับปะรดไปทางซ้ายและขวาให้อยู่ในรูปทรงตัวเอส แล้วเอาดอกหน้าวัวมากำหนดความกว้างของรูปทรงโดยปักให้ชิดปากแจกันและพยายามให้ปิดโอเอซิส ต่อมานำดอกเฮลิโคเนียร์ปักเพื่อกำหนดความสูงของรูปทรง

3) ปักใบเล็บครุฑกระจกปิดเทคนิค ปักดอกลิลลี่ให้เป็นจุดเด่นกลางภาชนะ

4) )ปักคริสซานติมัมและคลาสเตอร์เสริมรูปทรงแล้วปิดเทคนิคด้วยใบเล็บครุฑผักชี

ข้อควรระวัง

1)ปักก้านทุกก้านสู่จุดศูนย์กลาง

2)ตัดก้านดอกเฉียงมากๆและปักลึกพอสมควร

3)ให้โอเอซิสสูงกว่าขอบแจกันมากๆเพราะจะต้องปักย้อยลงมาข้างล่างด้วย

4) ตัวโอเอซิสสำหรับทรงนี้ควรคลุมด้วยลวดตาข่ายช่วยโอเอซิสแตกได้ยาก

5)อย่าให้ก้านขัดหรือไขว้ไปมา

6)เวลาปักอย่าให้โคนก้านชนกันเพราะจะทำให้ดูดน้ำได้ยากและโอเอซิสแตกง่าย

7)ปักให้เกิดความสมดุลย์ในรูปทรงมากที่สุด

การจัดดอกไม้สมัยใหม่

หัวใจของงานออกแบบจัดดอกไม้สมัยใหม่

60



องค์ประกอบอันสมบูรณ์แบบ คือ หัวใจของการออกแบบงานดอกไม้ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง เส้นสาย สีสัน สัดส่วน พื้นผิว ความสมดุลย์ จังหวะการเคลื่อนไหว การใช้พื้นที่ และการเว้นที่ว่าง แม้กระทั่งความหมายตามบริบทของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน หรือ ความเคารพ ในความงามที่ธรรมชาติหยิบยื่นให้แก่มนุษยชน ได้มารวมอยู่ในประเด็นอันหลากหลาย ที่ผมได้รวบรวม กลั่นกรอง และถ่ายทอด ผ่านบทความ เพื่อแบ่งปันมุมมองและประสบการณ์ส่วนตัวของผมที่เกี่ยวเนื่องกับการจัดดอกไม้สด ทั้งนี้ เพราะผลงานทุกชิ้น ที่มีความงดงามและเต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ล้วนเป็นผลลัพธ์จากการสร้างงานด้วยความซาบซึ้ง และความเข้าใจในรูปทรง รากฐาน โครงสร้าง และวัตถุดิบ อย่างถ่องแท้ แม่แบบที่ผมกำลังจะกล่าวถึง เป็นรากฐานอันสำคัญ ของการออกแบบงานจัดดอกไม้ร่วมสมัย ดั่งเช่นลำแสงสีทั้งเจ็ดกอปรขึ้นมาเป็นสายรุ้งอันงดงามเรืองรอง โดยเริ่มจากความเข้าใจใน แต่ละแม่แบบจนสามารถสร้างสรรค์ผลงานภายในกรอบของแม่แบบนั้นได้อย่างแม่นยำ แล้วจึงพัฒนาต่อไปด้วยการผสมผสาน ตีความ และประยุกต์ใช้ระหว่างแม่แบบ จนออกมาเป็นผลงานศิลป์หลากสีหลายรูปทรงอันตระการตา แล้วคุณจะค้นพบว่า เมื่อคุณเข้าใจ ถึงรากฐานอันเป็นแก่นสารของการออกแบบแล้ว ความเป็นไปได้ของการรังสรรค์งานจัดดอกไม้นั้นไม่มีที่สิ้นสุด และนี่คือ “ความลับทางคณิตศาสตร์” ที่อยูเบื้องหลังการสร้างสรรค์ผลงานของผมทุกชิ้น…”

กล้าหาญ เฉียบแหลม และตระการตา นับเป็นคำจำกัดความของผลงานออกแบบ การจัดดอกไม้สมัยใหม่ โดย สกุล อินทกุล ซึ่งถูกนำมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการใหม่ล่าสุด ณ โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่ นิทรรศการ “FlorESSENCE หัวใจของงานออกแบบ จัดดอกไม้สมัยใหม่” รวบรวมผลงานออกแบบและจัดดอกไม้ของ สกุล อินทกุล ศิลปินแนวหน้าของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “ศิลปะแห่งการสร้างสรรค์งานจัดดอกไม้” โดยจุดเด่นของงานนิทรรศการนี้ คือ งานประติมากรรมดอกไม้สด ที่ สกุล อินทกุล ลงมือรังสรรค์สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะจัดแสดงร่วมกับภาพถ่ายบันทึกผลงานชิ้นเอก ที่กลั่นกรองมาจากประสบการณ์การเป็นศิลปินผู้สร้างงานดอกไม้ ผนวกกับความหลงใหล ในความงามของธรรมชาติมานับทศวรรษ พร้อมกันนี้ สกุล อินทกุล ได้เปิดตัวหนังสือ เล่มใหม่ล่าสุด “FlorESSENCE: Essence of Modern Flower Design” เคียงคู่ไปกับนิทรรศการในชื่อเดียวกัน ซึ่งหนังสือเล่มนี้ เป็นเล่มแรกของชุดหนังสือ 2 เล่มที่ สกุล อินทกุล จะเผยหัวใจสำคัญของงานออกแบบจัดดอกไม้สมัยใหม่ จากผลงานหลายเล่ม หลากแง่มุมอันได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น อาทิ “ดอกไม้ไทย วัฒนธรรมดอกไม้แห่งชาติ” ซึ่งเน้นแสดงให้เห็นถึงงานดอกไม้ในบริบทต่าง ๆ ของวัฒนธรรมไทย หรือ “Tropical Colors: The Art of Living with Tropical Flowers” ที่บรรยายถึงความสุนทรีย์ในการใช้ชีวิตอันแวดล้อมด้วยความสวยงามของ ดอกไม้เมืองร้อน “FlorESSENCE” ถือเป็นการฉีกแนวจากผลงานในอดีตอย่างสิ้นเชิง ด้วยการเชื่อมโยงงานออกแบบดอกไม้ กับกฎเกณฑ์ทางคณิตศาสตร์ ซึ่ง สกุล อินทกุล ถือเป็นแม่แบบหลักในการออกแบบงานจัดดอกไม้ หนังสือเล่มนี้จึงนับเป็นหนึ่ง ในบันทึกประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของวงการการจัดดอกไม้โลก ความลับทางคณิตศาสตร์ที่เป็นรากฐานของการออกแบบดอกไม้ของ สกุล อินทกุล ถูกเผยตัวผ่าน 4 บท 4 แม่แบบ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงเรขาคณิต อันเป็นรูปทรงพื้นฐานของทุกสิ่งในจักรวาล คือ The Vertical หรือ แนวดิ่ง The Horizontal หรือ แนวนอน Cubes & Squares หรือ รูปทรงสี่เหลี่ยมและลูกบาศก์ และท้ายที่สุด Circles & Spheres หรือ วงกลมและทรงกลม ซึ่งเนื้อความและผลงานที่ถูกรวบรวมไว้ในแต่ละบทเต็มไปด้วยสีสัน จินตนาการ และความหมายลึกซึ้ง ที่ถูกร้อยรวมให้เป็นหนึ่งเดียวกันด้วยรูปทรงเรขาคณิตง่าย ๆ ซึ่ง สกุล อินทกุล ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ให้กับศิลปะการสร้างสรรค์งานดอกไม้และการชื่นชมความงามทางธรรมชาติจากมุมมองที่ไม่มีใครเหมือน

การจัดดอกไม้ทรงบอล

การจัดดอกไม้ทรงบอล

48

  การจัดดอกไม้คือ
การนำทุกส่วนของต้นไม้ ตั้งแต่ดอกใบ ก้าน ลำต้น หน่อ เป็นต้น มาจัดแต่งให้สวยงาม แต่ใหญ่เราใช้ใบและดอกเท่านั้น การจัดดอกไม้ให้สวยงามยิ่งขึ้น บางครั้งจะต้องนำสิ่งอื่นมาร่วมจัดด้วย เช่น กระดาษ ริบบิ้น โบ ผ้า ตัวสัตว์ มาแต่งประดับ แต่สิ่งเหล่านั้นจะต้องถูกเคลือบด้วยน้ำยากันเปียกก่อนนำมาใช้ การจัดดอกไม้จึงประกอบไปด้วยวัสดุ-อุปกรณ์ในการจัดดอกไม้ ผู้จัดดอกไม้จึงควรเรียนรู้องค์ประกอบของการจัดดอกไม้

ข้อพึงปฏิบัติในการจัดดอกไม้

1. การจัดดอกไม้ทุกครั้งต้องใส่น้ำ เพราะน้ำเป็นอาหารของดอกไม้ ทำให้อายุการใช้งานอยู่ได้นาน

2. ภาชนะที่ใช้จัดดอกไม้ต้องเก็บน้ำได้ ไม่รั่ว ไม่มีรอยร้าว ไม่มีรู้

3. การจัดดอกไม้ต้องประกอบด้วยดอกและใบหรือกิ่งเสมอ

4.ก่อนจัดจะต้องทำความสะอาดของที่นำมาจัดทุกชิ้นให้สะอาด เพื่อยืดอายุการใช้งาน

5.ฟรอร่าโฟม เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เป็นที่ยึดดอกไม้ ก่อนนำไปใช้จะต้องแช่น้ำให้อิ่มตัวก่อนจะนำไปใช้จัด

6.การเลือกดอกไม้เพื่อจัดดอกที่เด่นที่สุดปักตรงตรงจุดสนใจ ดอกที่มีความเด่นน้อยลงหลั่นลงไปปักที่อื่นๆที่ไม่ใช่จัดสนใจ ดอกยอดหรือแนวข้างมักใช้ดอกเล็ก ดอกตูมหรือแย้ม

7. หลักการจัดดอกไม้แบ่งออกเป็นหลักใหญ่ๆได้ 2 แบบ คือการจัดจากด้านนอกเข้าสู่ด้านในของแจกัน การจัดดอกไม้จากจุดเด่นของแจกันสู่เส้นรอบด้านของการจัดดอกไม้

8.การจัดดอกไม้จากจุดเด่นของแจกัน ถ้าอยู่สูงเกินไปจะทำให้เห็นก้านดอกไม้ เมื่อปักดอกไม้เสร็จแล้วจะไม่ค่อยสวย

9.มีดกรรไกรที่ใช้ในงานดอกไม้จะต้องคม สะดวกในการใช้ มิฉะนั้นทำให้ดอกไม้ใบไม้ซ้ำได้

10.วัสดุ-อุปกรณ์ทุกชนิดที่นำมาใช้กับงานดอกไม้ ควรเน้นสิ่งที่ถูกน้ำได้ไม่เสียหาย เพราะงานที่ใช้กับดอกไม้สดจะต้องฉีดน้ำอยู่เสมอ

วัสดุและอุปกรณ์

1.กระถางพร้อมจานรอง

2.โฟมจัดดอกไม้

3.ดอกกุหลาบ

4.ดอกคาสเตอร์

5.ใบโปร่งฟ้า

6.กิ่งไม้แห้ง ยาวประมาณ 12 นิ้ว

ขั้นตอนการจัด

1.เตรียมโฟมจัดดอกไม้ 2 ส่วน ส่วนที่1 ให้บรรจุลงในกระถาง ส่วนที่ 2 เกลาให้กลม แล้วนำกิ่งไม้แห้งมาเสียบที่ไฟมกลมส่วนปลายไม้อีกด้านหนึ่งให้ปักลงกระถาง

2.ตัดก้านดอกกุหลาบยาว 1-1.5 นิ้ว ปักดอกกุหลาบห้ได้ 4 ทิศทางและดอกส่วนบนอีก 1 ดอก

3.ปักดอกกุหลาบให้สับหว่างตามช่องว่างระหว่างดอกไม้ให้ได้ช่วงจังหวะที่สม่ำเสมอ

4.ปักใบโปร่งฟ้าสั้นๆตามช่องว่างระหว่างดอกกุหลาบ

5.ปักใบโปร่งฟ้าที่ปากกระถางให้ปิดโฟมจัดดอกไม้

6.ปักดอกคาสเตอร์ตกแต่งแล้วผูกโบติดที่กิ่งให้สวยงาม